วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Feedback จากชาวสิงค์โปร์ที่มาฝึก Basic Pistol กับทาง ผมและน้องๆ


Feedback จากชาวสิงค์โปร์ที่มาฝึก Basic Pistol กับทาง ผมและน้องๆ ที่มาร่วมกันทำงาน ทำให้เกิดความรู้สึกดีๆ จากการเป็นครู และการถ่ายทอดแบ่งปันความรู้ให้ผู้อื่น เราไม่จำเป็นต้องเป็นกระบี่มือหนึ่ง แต่เราเป็นผู้ให้ที่ส่งออกสิ่งต่างๆ ด้วยใจ และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด เราทำงานเป็นทีมที่มีการทำงานอย่างประสานสอดคล้อง ขอบคุณ น้องๆ ที่ปรากฏให้เห็นในภาพถ่ายและไม่เห็นในภาพถ่าย ทุกอย่างจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าเราไม่ร่วมกันสร้างมันขึ้นมา ขอบคุณอีกครั้งที่ทำให้เรามีกำลังใจที่จะทำงานกันต่อไป Hooaha!!!
 — รู้สึกมหัศจรรย์กับ รักษ์ นะ และคนอื่นๆ อีก 2 คนที่ สนามยิงปืน พัน.ร.มทบ.11

จัด Basic Pistol ให้กับทาง Instructor และ นักเรียน Krav Maga สิงค์โปร์



ตัวอย่างภาพสวยๆจากฝีมือน้องรักษ์ รักษ์ นะ กับ action ของ Instructor และ นักเรียน Krav Maga จากสิงค์โปร์ ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่เคยใช้อาวุธปืนมาก่อน ภาพที่เห็นคือวันที่สองที่ได้จับปืน ต้องบอกว่าตั้งใจและ serious มาก แต่พัฒนาการเร็วมากสมเป็นคนสิงค์โปร์จริงๆ
 — ที่ สนามยิงปืน พัน.ร.มทบ.11

จัด Basic Pistol ให้กับทาง Instructor และ นักเรียน Krav Maga สิงค์โปร์



มอบประกาศนียบัตรหลังจบการฝึกและสอบผ่าน มีคุณสมบัติตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร Basic Pistol ที่กำหนดไว้ ให้กับ Instructor และนักเรียน Krav Maga จากสิงค์โปร์ ต้องเรียกได้ว่าประทับใจในความสามารถของแต่ละท่านเลยทีเดียว

ทำความเข้าใจเรื่องการปลดอาวุธผู้ที่จะมาทำร้ายเรา (Disarm Technique)


จัด Basic Pistol ให้กับทาง Instructor และ นักเรียน Krav Maga สิงค์โปร์


22 – 23 พ.ค.58 ทาง Centaur Tactical จัดการฝึก Basic Pistol Course ให้กับ Instructor และนักเรียน Krav Maga จากสิงค์โปร์ เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับปืน โดยมี ผู้เข้ารับฝึกจำนวน 5 คน ทั้ง 5 คนเป็นผู้ที่ไม่เคยใช้อาวุธปืนมาก่อน ผลการฝึก เป็นที่น่าสนใจ ว่าแต่ละคนตั้งใจฝึก สามารถจับถืออาวุธปืนได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย สามารถยิงเข้าเป้าหมายเส้นผ่าศูนย์กลาง 5” ที่ระยะ 7 หลา ได้ทุกคน ขอบคุณพี่น้อง Krav Maga จากสิงค์โปร์ที่แวะมาแลกเปลี่ยนความรู้กับทาง Centaur Tactical ของเราครับ
** ปล. – ขอบคุณน้อง รักษ์ รักษ์ นะ ที่ช่วยถ่ายภาพสวยๆ ให้เราเหมือนเดิม และขอบคุณสมาชิก IKMF ประเทศไทย โหน่ง และ ตั้ม(สห.) ที่มาช่วยเป็น Safety และน้องตูน Army Hero ที่ช่วยนำอุปกรณ์ต่างๆ มาแสดงให้ผู้รับการฝึก ขอบคุณ เพื่อน เหมาะ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้สนาม ครับ
 — ที่ สนามยิงปืน พัน.ร.มทบ.11

วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

รายการ Tactical Line ตอนที่ 6 - การเก็บปืนเข้าซอง ( ยิงปืน )


ในบางสถานการณ์การเก็บปืนเข้าซอง เป็นสิ่งที่จำเป็นเช่น การต้องการใช้ 2 มือเพื่อหยิบจับสิ่งของ หรือ การเก็บปืนเข้าซองเพื่อบรรจุกระสุนในปืนหลัก เป็นต้น

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เมื่อชีวิตเปลี่ยนจากอาจารย์ กลับกลายมาเป็นครู


ผมเชื่อว่าหลายคนคงสงสัยว่าทำไมเดี๋ยวนี้ผมไม่ได้ ทำงานคล้ายกับอาจารย์สอนหนังสือ หรือ เป็นนักวิชาการด้านความมั่นคง แต่เห็นผมกลับมาจับปืน ฝึกและสอน Hand – to – Hand Combat คำตอบง่ายๆ ของผมคือ สถานการณ์บ้านเมืองในช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน นั้นส่งผลให้ผมไม่สามารถทำงานเป็นอาจารย์และนักวิชาการด้านความมั่นคง ได้ถนัดนัก ผมเลยต้องผันตัวเองมาเป็นครูทหาร คำว่าครูทหารน่าสนใจครับ กระบวนการสร้างทหารของกองทัพที่ต้องการให้ทหารแต่ละคนออกมาเป็นทหารอาชีพ สามารถไปทำหน้าที่ของได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทหารทุกนายเลยต้องมีโอกาสที่จะได้รับความการฝึกอบรมและการสอนจากครูทหาร และทุกนายไม่ว่าจะเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร หรือ ประทวน ต่างก็ต้องเคยผ่านชีวิตการเป็นครูทหารกันทั้งนั้น
ในทางทหารนั้น การสร้างทหารคนหนึ่งจะต้องมีกระบวนการเรียนรู้ ใน 2 ลักษณะ คือ 1) การฝึก และ 2) การศึกษา เพราะฉะนั้นเมื่อผมทำเรื่องการศึกษาไม่ค่อยสะดวก ผมก็ต้องย้ายมาทำเรื่องฝึกแทน และเมื่อทำไปสักพัก ก็เลยผุดแนวความคิด ทำรายการ Tactical Line และ โครงการ : ส่งเสริม ถ่ายทอด และ แลกเปลี่ยน ความรู้ในการปฏิบัติงานทางยุทธวิธี ทำให้วันนี้กลับกลายมาเป็นครูทหารอีกครั้ง หลังจากเป็นอาจารย์มาเสียนาน
ถึงตอนนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วแก่ขนาดนี้จะกลับมาเป็นครูทหารที่ฝึกสอนในเรื่องทางยุทธวิธี ทั้งที่ผ่านมาสอนในระดับยุทธศาสตร์ คำตอบครับง่ายนิดเดียว ข้อแรก ผมเป็นทหารถ้านับตั้งแต่เป็นนักเรียนทหารมาก็ร่วม 30 ปี วิชาการทหารนั้นเราสั่งสมมานาน และที่สำคัญถ้าเราหมั่นค้นคว้าและฝึกฝนอยู่เสมอแล้ว ความรู้ของเราจะใหม่อยู่เสมอครับ ที่สำคัญเรายังสามารถวิเคราะห์เรื่องราวต่างๆ ได้แล้วนำมาสังเคราะห์เป็นความรู้ใหม่เพื่อนำมาถ่ายทอดต่อไปได้
เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นอาจารย์สอนระดับยุทธศาสตร์และความมั่นคง หรือ ครูทหารสอนระดับยุทธวิธี ผมก็ทำงานเหมือนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนระดับ เปลี่ยนผู้เรียน เปลี่ยนเนื้อหาก็เท่านั้น ความรู้ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ไม่เคยหยุดนิ่ง การคิดค้น ค้นคว้า สิ่งใหม่ๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องปรับตัวให้เข้ากับความการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ... Hooaha!!!
** ปล. – ขอยืมภาพที่ไปจัดทำ โครงการ : ส่งเสริม ถ่ายทอด และ แลกเปลี่ยน ความรู้ในการปฏิบัติงานทางยุทธวิธี ให้กับ Operators ของหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง มาใช้เป็นภาพประกอบ และ ขอบขอบคุณน้อง รักษะ นะ ที่ถ่ายภาพออกมาสวยงามเหมือนเดิม

ทอทหารรำพึงรำพันวันนี้ :


สิงโตแม้จะแก่ ผอมแห้งแรงน้อย หมดแรงไล่ล่า แต่มันก็ยังคงเป็นสิงโต มันคงไม่ไปขอใครกิน และยอมตายอย่างทรนง เพราะถ้าไปขอเขากิน มันก็ไม่ต่างอะไรกับไฮยีน่า สังคมทุกวันนี้หลายคนละทิ้งอุดมการณ์ จากที่เคยฝันจะเป็นสิงโต เลยแปรสภาพเป็นไฮยีน่ากันเยอะ เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดลืมตามาดูโลกเพียงวันเดียวเป็นสิงโต นั้นยังมีเกียรติกว่าเกิดเป็นอย่างอื่นแล้วมีชีวิตยืนยาว 100 ปี 1000 ปี แล้วรุมทึ้งแย่งอาหารกันเพราะสิงโตยังไงก็คือสิงโตวันยังค่ำ คำถามง่ายๆ ในใจเราวันนี้ คือ เราเลือกที่จะเป็นอะไร จะยืนยังไงในสังคมและเราจะทำอะไรให้สังคมและส่วนรวม นอกเหนือจาก ตัวเอง ครอบครัวและพรรคพวกของตัวเองที่เรากำลังทำอยู่ ...... Hooaha!!!

วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ผมเห็นอะไรในกระบวนการเรียน Ice Skating




ในอดีตที่ผ่านมา ผมเคยดู Figure Skating บ่อยๆ ตอนสมัยที่ผมศึกษาปริญญาเอกอยู่ที่ Florida (1999 – 2003) สมัยนั้น Michelle Kwan กำลังดัง ผมได้มีโอกาสได้ดูเพราะ เพื่อนๆ หลายคนพูดถึง แต่พอจบการศึกษากลับก็ไม่ค่อยมีโอกาสได้ดูอีกเพราะเมืองไทยไม่ค่อยเป็นที่นิยมกัน Figure Skating จึงเลือนหายไปจากความรู้สึก จนกระทั่งเมื่อผมมีลูกสาว พออายุได้ 6-7  ขวบเคยพาไปเล่น เพราะเธออยากเล่น ตอนนั้นก็ไปแค่ครั้ง สองครั้ง ต่อมาปีที่แล้ว (2557) วันปิยะมหาราช (23 ต.ต.57) สาวน้อยเธอขอไปเล่นอีก คราวนี้เราตัดสินใจให้เรียนกับคุณครู จากนั้นก็เรียนมาเรื่อยๆ กับครูแนน จนกระทั่ง คุณครูแนนมาถามว่าจะลองลงแข่งมั้ย ด้วยความที่ไม่มีความรู้เรื่องการแข่งขันเลย ก็งงๆ เพราะไม่คิดว่าสาวน้อยจะไปแข่งอะไรได้ แต่ก็มองว่าเป็นประสบการณ์ ก็เลยให้ลง สาวน้อยก็มีซ้อมอาทิตย์ละครั้ง จนกระทั่งใกล้วันแข่ง สาวน้อยมาขอซ้อมเอง ก็เลยพาไปซ้อมเพิ่มเติม 2 ครั้ง แล้วก็ลงแข่ง วันจริง คือวันที่ 7 พ.ค.57 จำนวน 3  events (ความจริงก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลยคุณครูแนน ถามว่าลงแข่ง อันนี้มั้ย ผมพยักหหน้าหมด 555) คือ

- Event 2 – ระดับ Pre Alpha ของเด็กอายุ 8 ขวบ (Pre Alpha เป็นระดับที่สาวน้อยเพิ่งสอบผ่าน ระดับต่ำสุด) ผลที่ได้ สาวน้อย ได้ที่ 1
- Event 21 Solo Compulsories ผลที่ได้ สาวน้อย ได้ที่ 2
- Event 33 – Jump and Spin ระดับ Low ผลที่ได้ สาวน้อย ได้ที่ 4

ผลที่ได้เกินความคาดหมายเพราะไม่คิดว่าสาวน้อยจะแข่งแล้วได้ที่ดีอะไร เพราะเพิ่งเรียนยังไม่ถึง 20 ครั้งเลย ถามว่าดีใจมั้ยก็แอบดีใจที่ได้เหรียญ แต่สิ่งที่ผมอยากบอกว่าทำไมผมต้องมาเขียนเล่าเรื่องอะไรมากมาย บางคนก็อาจจะมองว่าอวดเรื่องลูก แต่สิ่งที่ผมอยากจะไม่ได้เป็นเรื่องความสามารถพิเศษอะไรของลูกสาว หรือ อวดอะไร แต่สิ่งที่ผมเห็นคือ มีเด็นหลายคนที่เป็นเหมือนลูกสาวของผม การแข่งเหมือนการให้กำลังใจเด็กที่เข้ามาเรียนและจะได้แสดงออกตามระดับความสามารถของตน เป็นการทำกิจกรรมเพื่อให้กำลังใจเด็กๆ และสร้างแรงบันดาลใจให้เรียนเพื่อให้มีทักษะที่สูงขึ้น

ผมนั่งมองเด็กทุกคนที่ลงแข่งล้วนแต่มีสมาธิ ใจจดใจจ่อกับสิ่งที่ตัวเองจะต้องออกไปแสดงบนลานน้ำแข็งที่กว้าง และมีเด็กเหล่านั้นคนเดียว อยู่บนลานนำแข็ง กำลังแสดงความสามารถและทักษะต่างๆ ของตนให้กับคนดูรอบลานน้ำแข็งจำนวนมาก และเด็กๆ เหล่านี้มีความมั่นใจในตัวเองที่จะออกไปแสดงบนลานน้ำแข็งอันกว้างใหญ่เย็นยะเยือก ท่ามกลางสายตาของคนจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่วันแรกๆ ของการแข่งคือเหล่าผู้ปกครองของเด็กๆ ที่เฝ้ารอดูลูกหลานของตนและให้กำลังใจเด็กๆ ทุกคนที่ลงไปแข่ง

สาวน้อยของผมก็ไม่ต่างจากคนอื่น เธอเริ่มขอพ่อแม่เพื่อมาฝึกซ้อมเอง ไม่เคยมีใครบังคับเธอ มาถึงก็ลงซ้อม แต่อาจจะไม่เหมือนเด็กคนอื่นที่มีความมุ่งมั่นมากกว่าเพราะพอสาวน้อยซ้อมไปได้สักพัก พอเริ่มรู้สึกว่าทำได้ก็ไม่ได้ซ้อมต่ออะไร เมื่อถึงวันแข่งเธอตื่นเต้นตลอดเวลาก่อนที่จะแข่ง เธอแข่ง Event 2 ซึ่งเป็นครั้งแรกของเธอนั้นสาวนน้อยบอกว่าตื่นเต้น แต่พอเริ่มแสดงแล้วความรู้สึกเหล่านั้นหายไป หลังจากแข่งเสร็จทุก Event เธอบอกว่าปีหน้าขอลงแข่งใหม่เธออยากลงอีก และเธอขอมาดูการแข่งในวันสุดท้ายซึ่งเป็นการแข่งในระดับ advance

ระหว่างการแข่งขัน ผมนั่งมองเด็กๆ ทุกคน นั้นสิ่งที่ผมเห็นเด็กส่วนใหญ่นั้นมาแข่งเพราะได้มีโอกาสแต่งชุดสวย และได้ออกไปแสดง มีรางวัลให้กำลังใจ คือเหรียญต่างๆ เพราะระดับเริ่มๆ ต้น นั้นทุกคนที่ลงแข่งแทบทุกคนจะได้เหรียญ ในเด็กที่ผมเห็นหลายคนนั้นมีเพียง 10-20% นั้นมีสายตาที่มุ่งมั่นและปราถนาอย่างแรงกล้าในการทำให้ดีที่สุด เพื่อให้ตัวเองไปเป็นทีมชาติ หรือมีโอกาสในการแข่งระดับโลก

เพราะฉะนั้น คนที่เรียน Figure Skating นั้นจะมีกระบวนการสร้างความมั่นใจ สร้างความมุ่งมั่น การมีสมาธิใจจดใจจ่อกับสิ่งที่เรากำลังจะทำและพยายามทำสิ่งต่างๆ เหล่านั้นให้มีความผิดพลาดน้อยที่สุด ถึงแม้จะไม่เป็นทุกคนที่จะมุ่งมั่นจะไปแข่งในระดับนานาชาติหรือติดทีมชาติ แต่ Figure Skating ก็สร้างให้เด็กมีสมาธิทำสิ่งที่กำลังทำ ให้ทำออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่เขาเหล่านั้นจะทำได้

สรุปคือที่ผมเขียนมาเยอะแยะเพราะ ผมอยากให้เรามองเห็นทะลุเข้าไปถึงกระบวนการเรียนรู้ที่ให้เด็กๆ มีสมาธิ มีความรับผิดชอบ กล้าแสดงออก มีความมั่นใจตนเอง มากกว่าจะไปมองที่เหรียญที่เด็กๆ แต่ละคนได้มา นี่คือสิ่งที่ผมได้เห็น แต่ข้อเสียมีเรื่องเดียวคือ ค่าใช้จ่ายในการเรียน เล่น ฝึกซ้อม และแข่งกีฬาชนิดนี้ถือได้ว่าค่อนข้างสูง

สุดท้ายครับ ทำอะไรก็ตามอย่าบังคับให้ลูกๆ ทำสิ่งที่เราอยากให้ทำ แต่เราควรสนับสนุนให้ลูกๆ ของเราทำให้สิ่งที่เขาอยากทำ และเขาเลือกเอง เขาก็จะทำสิ่งเหล่านั้นอย่างมีความสุข .....เอวังครับ

** ปล.- ขอขอบคุณ คุณครูแนน อีกครั้งที่ได้สอนให้สาวน้อยของผม ทำในสิ่งต่างๆ ที่ไม่คิดว่าจะทำได้ หาท่านใดอยากให้ลูกหลานมาเรียน Figure Skating ก็แวะมาเรียนกับคุณครูแนน ได้นะครับ ที่ The Rink Central พระราม 9 หากครูแนนไม่ว่างติดสอน ครูท่านอื่นๆ ก็ได้ครับ คุณครูน่ารักทุกคน




ทอทหาร - รำพึงรำพัน

ทุกวันนี้หลายคนมุ่งแต่ผลประโยชน์ของตน และ ของกลุ่มตน มองแล้วเหมือนทุกคนที่มีอำนาจ มีโอกาส ต่างถือถังมาคนละใบ พลั่วคนละอัน จากนั้นเมื่อตัวเองมีตำแหน่ง มีโอกาส ก็เริ่มจะใช้พลั่วตักผลประโยชน์เข้าถังตัวเอง ถ้าเมื่อไรเริ่มตักในสิ่งเดียวกันก็จะเอาพลั่วมาตีกัน สู้กันไม่ได้ก็เอาพวกมาตีกันต่อ สังคมทุกดูไปแล้วก็มีลักษณะนี้กัน หากเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ แล้วลูกหลานเราในวันข้างหน้าจะเหลืออะไร จะอยู่กันยังไง ในเมื่อคนที่มีโอกาส มีอำนาจในยุคนี้เลือกตักสิ่งต่างๆ ที่จะเอาไว้ใช้ประโยชน์ในอนาคต ไปหมดแล้ว ว่าแล้วก็รักชาตน้ำลายไหลกันต่อไป Hooaha!!!